
ด้านการศึกษา
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำริพร้อมกับ
ได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ เป็นทุนริเริ่มในการจัดสร้าง โรงเรียน
และวัด ทำโครงการ ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา อาทิเช่น โรงเรียนตามวัดต่าง ๆ
โรงเรียนเจ้าพ่อหลวงอุปถัมภ์ โรงเรียนร่มเกล้า โรงเรียนราชประชาสมาสัย
กองทุนนวฤกษ์ มูลนิธิอานันทมหิดล ศาลารวมใจ โครงการพระดาบส
โครงการสารานุกรมไทย แลศึกษา อาทิเช่น โรงเรียนตามวัดต่าง
โรงเรียนเจ้าพ่อหลวงอุปถัมภ์ โรงเรียนร่มเกล้า โรงเรียนราชประชาสมาสัย
กองทุนนวฤกษ์ มูลนิธิอานันทมหิดล ศาลารวมใจ โครงการพระดาบส
โครงการสารานุกรมไทย และอื่น ๆ
ด้านการพัฒนาชนบท
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ
ไปทุกหนแห่งไม่ว่าดินแดนแห่งนั้นจะทุรกันดารเพียงใด ไม่ว่าใกล้ไกลแค่ไหน
พระองค์จัดทำโครงการพัฒนาชนบท ตาม แนวพระราชดำริควบคู่ไปในทุกๆ ด้าน
ไม่เน้นด้านใดด้านหนึ่ง พระองค์มีจุดประสงค์เดียวคือ
เพื่อขจัดความทุกข์ยากของชาวชนบท และสนับสนุนส่งเสริม
ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น รวมทั้งแก้ปัญหาสังคมเมืองให้ดีขึ้น
โดยจะเห็นได้จากโครงการในพระราชดำริ หลายโครงการที่เกิดขึ้น
จากความรับผิดชอบ ของ หน่วยงานต่างๆ
ด้านการเกษตรและชลประทาน
ในด้านการเกษตร จะทรงเน้นในเรื่องของการค้นคว้า
ทดลอง และวิจัยหาพันธุ์พืชใหม่ๆ ทั้งพืชเศรษฐกิจ พืชสมุนไพร
รวมถึงการศึกษาเกี่ยวกับแมลงศัตรูพืช และพันธุ์สัตว์ต่างๆ
ที่เหมาะสมกับสภาพท้องถิ่นนั้นๆ
ซึ่งแต่ละโครงการจะเน้นให้สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง มีราคาถูก
ใช้เทคโนโลยีง่าย ไม่สลับซับซ้อน เกษตรกรสามารถดำเนินการเองได้ นอกจากนี้
ยังทรงพยายามไม่ให้เกษตรกรยึดติดกับพืชผลทางการเกษตรเพียงอย่างเดียว
เพราะอาจเกิดปัญหาอันเนื่องมา จากความแปรปรวนของสภาพดินฟ้าอากาศ
หรือความแปรปรวนทางการตลาด
แต่เกษตรกรควรจะมีรายได้จากด้านอื่นนอกเหนือไปจากการเกษตรเพิ่มขึ้นด้วย
เพื่อจะได้พึ่งตนเองได้ในระดับหนึ่ง
ด้านการแพทย์
โครงการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานให้กับประชาชนในระยะแรกๆ
ล้วนแต่เป็นโครงการด้านสาธารณสุข เพราะพระองค์ทรงเห็นว่า
หากประชาชนมีร่างกายที่สมบูรณ์ แข็งแรง จะนำไปสู่สุขภาพจิตที่ดี
และส่งผลให้การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมดีไปด้วย พระองค์จึงทรง ให้ ความ
สำคัญกับงานด้านสาธารณสุขเป็นอย่างมาก
ในการเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฏรตามท้องที่ต่างๆ ทุกครั้ง
จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มี คณะแพทย์ที่ประกอบด้วย
ผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขาจากดรงพยาบาลต่างๆ และล้วนเป็นอาสาสมัครทั้งสิ้น
โดยเสด็จพระราชดำเนินไปในขบวนอย่างใกล้ชิด
พร้อมด้วยเวชภัณฑ์และเครื่องมือแพทย์ครบครัน
พร้อมที่จะให้การรักษาพยาบาลราษฎรผู้ป่วยไข้ได้ทันที
ด้านการกีฬา
เรือใบ เป็นกีฬาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโปรดเป็นพิเศษ พระองค์ทรงเป็นตัวแทนของประเทศไทยลงแข่งเรือใบใน กีฬาแหลมทองครั้ง
ที่ 4 ระหว่างวันที่ 9-16 ธันวาคม พ.ศ. 2510 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ
โดยทรงเข้าค่ายฝึกซ้อมตามโปรแกรมการฝึกซ้อม
และทรงได้รับเบี้ยเลี้ยงในฐานะนักกีฬา เช่นเดียวกับนักกีฬาคนอื่น ๆ
ในที่สุด ด้วยพระปรีชาสามารถ พระองค์ทรงชนะเลิศเหรียญทอง
และทรงได้รับการทูลเกล้าฯ ถวายรางวัลเหรียญทองจาก สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2510
ท่ามกลางความปลื้มปีติของพสกนิกรชาวไทยทั้งประเทศ
และเป็นที่ประจักษ์แก่ชนทั่วโลก ทำให้พระอัจฉริยภาพทาง กีฬาเรือใบ
ของพระองค์ที่ยอมรับกันทั่วโลก
พระองค์ยังได้ทรงออกแบบและประดิษฐ์เรือใบยามว่างออกมาหลายรุ่น
พระองค์พระราชทานนามเรือใบประเภทม็อธ ( Moth) ที่ทรงสร้างขึ้นว่า เรือใบมด เรือใบซูเปอร์มด และ เรือใบไมโครมด
ถึงแม้ว่าเรือใบลำสุดท้ายที่พระองค์ทรงต่อคือ เรือโม้ค (Moke) เมื่อ 17
พฤศจิกายน พ.ศ. 2510
เรือใบซูเปอร์มดยังถูกใช้แข่งขันในระดับนานาชาติที่จัดในประเทศไทยหลายครั้ง
ครั้งสุดท้ายคือเมื่อ พ.ศ. 2528 ในกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 13
ทีี่มา: http://king.kapook.com/job_duties_science_and_technology.php
ประวัติผู้จัดทำ
เด็กชาย จิรภัทร สว่างศรี
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/7
เลขที่ 2 เลขประจำตัวนักเรียน 12189
ขอขอบคุณผู้ให้บล็อกฟรี blogger สนับสนุนเพื่อการศึกษา
..................................
ขอบคุณผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น